อันตรายจากแสงสีฟ้า

แสงสีฟ้า ภัยใกล้ตัวที่เราคาดไม่ถึง
แสงสีฟ้า – Blue Light เป็นแสงประเภทที่มีพลังงานสูง ส่งผลเสียโดยตรงกับดวงตา
เพราะเป็นแสงที่เรามองเห็นได้ จึงสามารถทะลุผ่านเลนส์ตาและกระจกตาเข้าไปถึงจอประสาทตาได้
หากได้รับเป็นเวลานานจะส่งผลให้จอประสาทตาเสื่อมเร็วกว่าปกติ และทำให้เกิดอาการอื่นๆ ได้ดังนี้
- อาการตาล้า เพราะแสงสีฟ้าที่เราจ้องมองอยู่มีความสว่างมากทำให้ดวงตาต้องทำงานอย่างหนัก
- อาการตาแห้ง เพราะอุปกรณ์ที่เราจ้องมองส่วนใหญ่จะมีขนาดเล็กทำให้เราต้องจ้องมองมากกว่าปกติ
- แสงสีฟ้าสามารถทะลุเข้าไป และทำลายเซลล์รับแสงในจอประสาทตาได้ และอาจเป็นปัจจัยสำคัญของการสูญเสียการมองเห็นได้นั่นเอง
การหลบเลี่ยงจากแสงสีฟ้าในชีวิตประจำวันนั้น เป็นเรื่องยาก
เนื่องจากแสงสีฟ้ามีทั้งเกิดจากแหล่งพลังงานธรรมชาติ และจากสิ่งประดิษฐ์ของมนุษย์ ได้แก่
- แหล่งพลังงานธรรมชาติ เช่น ดวงอาทิตย์ (แสงแดด) ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดแสงที่มีปริมาณของแสงที่มีความเข้มมากที่สุด
- อุปกรณ์ต่างๆ ที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่น หลอดไฟ LED ตามบ้านเรือน หรือแม้แต่ ไฟหน้าและไฟท้ายรถ รวมไปถึงอุปกรณ์ดิจิทัลต่างๆ เช่น
จอโทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต
การทำลายของแสงสีฟ้าที่ออกมาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ โทรทัศน์ หรือหน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ
โดยเฉพาะการใช้ในที่มืด จะทำให้ดวงตาเกิดความผิดปกติ เสียหายอย่างรุนแรง และเสื่อมสภาพได้อย่างรวดเร็ว
เพราะแสงสีฟ้า เป็นตัวกระตุ้นอย่างดีที่ทำให้เกิดอนุมูลอิสระในดวงตา และเข้าไปทำลายเซลล์รับแสงในดวงตา ได้โดยตรง
อาการผิดปกติของดวงตาที่เกิดจากแสงสีฟ้า
หากใช้เวลาอยู่กับหน้าจอมากเกินไป โดยขาดการพักสายตา จนเกิดความผิดปกติ
จะพบว่ามีอาการในระยะแรก ดั้งนี้
- ตาแห้ง แสบตา
- ทำให้กระพริบตาน้อยลง
- มองเห็นไม่ชัดเจน ภาพเบลอ
- ตาแพ้แสง ตาพร่ามัว เห็นภาพซ้อนเมื่อถูกแสง
- ปวดเบ้าตา ปวดกระบอกตา กล้ามเนื้อตาอ่อนล้า